รู้ก่อนตัดสินใจ ข้อดี ข้อเสีย ประกันออมทรัพย์ ทำดีไหม

ประกันออมทรัพย์ เป็นประกันที่ปัจจุบันหลายคนได้หันมาใช้เป็นตัวเลือกในการออมเงินหรือช่วยกันเก็บ โดยประกันออมทรัพย์นี้มีการออกแบบมาเพื่อการออมเงิน ควบคู่ไปกับการมีประกันชีวิต แต่เป็นเสมือนการออมภาคบังคับ ทำให้ใครหลายคนมองว่าเป็นการเก็บเงินที่ดีที่สุด เพราะไม่สามารถที่จะเบิก ถอน ได้บ่อยๆ โดยปัจจุบัน ประกันเพื่อคุ้มครองชีวิตเรียกได้ว่าเป็น ประกันในอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ แต่อยากรู้ไหมคะ ว่าประกันแบบออมทรัพย์นั้น มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

ข้อเสียของประกันออมทรัพย์
1.ทุนประกันน้อย ข้อนี้ถือได้ว่าเป็นข้อเสียเพียงข้อเดียวของ ประกันออมทรัพย์เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะประกันแบบออมทรัพย์นี้ มีทุนประกันค่อนข้างที่จะน้อย เมื่อเทียบกับประกันชีวิตในแบบอื่น ซึ่งต้องบอกเลยค่ะว่า หากต้องการเน้นทุนประกันในการคุ้มครองชีวิตแล้วล่ะก็ ประกันออมทรัพย์นี้ไม่เหมาะอย่างแน่นอนค่ะ

ข้อดีของประกันแบบออมทรัพย์
1.เสริมสร้างให้เรามีวินัยทางการเงิน สาเหตุมาจากการซื้อประกันออมทรัพย์นั้น การจ่ายเบี้ยประกัน ลักษณะประกันภาคบังคับเรา โดยที่ผู้ประกันจะต้องจ่ายเบี้ยตามวันและเวลาที่ได้มีการระบุไว้ในกรมธรรม์ ถึงจะได้ผลตอบแทน หรือ ได้รับความคุ้มครอง
2.อีกหนึ่งวิธีในการเก็บเงินออม เป็นอีกวิธีการออมเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงและคงที่ช่วยให้เรามีเงินเก็บ ไว้ใช้ในยามแก่ชราหรือในวัยเกษียณ
3.ราคาจับต้องได้ เบี้ยประกันออมทรัพย์จะไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันชีวิตประเภทอื่นๆ ทำให้คนที่มีกำลังจ่ายไม่มากสามารถทำประกันในรูปแบบนี้ได้ อีกทั้งยังแบ่งจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายเดือนหรือรายปีได้อีกด้วย

ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบระหว่างข้อดีและข้อเสียของการทำประกันออมทรัพย์แล้ว เรียกได้ว่าเป็นประกันในอีกรูปแบบที่น่าสนใจมากๆเลย ยังไงก่อนการซื้อกรมธรรม์อย่าลืมอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์ให้ดีทุกครั้งนะคะ เพราะรายละเอียดย่อยของแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน หากผู้อ่านท่านใดมีความสนใจอยากทำประกันออมทรัพย์ ที่มอบผลตอบแทนสุดคุ้มค่าให้กับคุณ ขอแนะนำ KWI Life ที่ให้บริการอย่างจริงใจ พร้อมดูแลห่วงใยคุณค่ะ

เทคนิคการเก็บแอปเปิลกาล่า กินได้นาน กรอบฟินเหมือนเดิม

เชื่อได้ว่าหลายๆ คนหลังจากช่วงโควิด 19 หากไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากเข้าห้างสรรพสินค้าหรือตลาดที่คนพลุกพล่านกันบ่อยๆ ใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยนำเอาเทคนิคการเก็บแอปเปิลกาล่า 7 ขั้นตอนมาฝากกัน ทำตามนี้มีแอปเปิล สดหวาน กรอบกินกันยาวๆ ไม่ต้องไปช๊อปบ่อยๆ เลย

เทคนิคการเก็บแอปเปิลกาล่าให้กินได้นานขึ้น

1. เริ่มจากการเลือกแอปเปิลกาล่า ให้เลือกที่ผิวให้ดูเรียบ ไม่มีร่องรอยของการขูดขีด ถลอก และต้นขั้ว0ไม่เหี่ยว ไม่มีรอยช้ำ รอยกระแทก

2. เมื่อถึงบ้านให้ทำการแยกแอปเปิลออก แล้วจากนั้นนำกระดาษมาห่อแอปเปิลกาล่าแยกเป็นลูกๆ ใส่ในถุงพลาสติกแล้วเจาะรูห่างๆ

3. หากบ้านใครที่พื้นที่ในตู้เย็นน้อยให้วางแอปเปิลในตะกร้า โดยระวังไม่ให้ผิวของแอปเปิลแต่ละลูกนั้น สัมผัสกัน จากนั้นนำกระดาษทิชชูชุบน้ำวางปิดไว้ด้านบนของตะกร้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่แอปเปิล แต่ตะกร้ารอบข้างต้องมีอากาศที่ถ่ายเทได้ดี จากนั้นค่อยนำเข้าไปแช่ตู้เย็น

4. สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือ อย่าให้ผิวของแอปเปิลสัมผัสกัน เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาและทำให้แอปเปิลกาล่าของเรานั้นเสียไวยิ่งขึ้น

5. เมื่อต้องการรับประทานให้หยิบออกมาแค่พอทานหรือครั้งละ 1- 2 ลูก จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด พยายามใช้ฟองน้ำขัดคราบกาวและคราบสิ่งสกปรกออก

6. ล้างแอปเปิลกาล่าอย่างน้อย 3 น้ำ จนใสเพราะไม่เพียงแต่สิ่งสกปรก แอปเปิลมักถูกเคลือบมาด้วยแว๊กซ์เพื่อให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

7. เมื่อล้างเรียบร้อย ใครที่ชอบทานเปลือกให้หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วแช่ในน้ำเย็นจัด 2-5 นาทีหรือแช่น้ำและนำใส่ตู้เย็น หากใครไม่ชอบเปลือกก็ให้ทำการปอกเปลือกออกก่อน จากนั้นแช่ในน้ำเย็นจัด 2-5 นาทีหรือแช่น้ำและนำใส่ตู้เย็น วิธีนี้จะทำให้แอปเปิลกรอบ ชุ่มฉ่ำและไม่ดำ

7 ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนในการเก็บรักษาแอปเปิลกาล่าให้ได้กินกันแบบยาวๆโดยที่ไม่สูญเสียความกรอบและหวาน อร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของแอปเปิลกาล่า

[Top]

ทำจมูกมา ห้ามทำสิ่งเหล่านี้ ไม่งั้นพัง

การศัลยกรรมเสริมจมูก เชื่อได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งในบางครั้งหลายคนที่ทำจมูกมา อาจจะมองข้ามข้อห้ามต่างๆที่ไม่ควรทำหลังการเสริมจมูก ไม่งั้นจากการที่รอความสวยปัง จะกลายเป็นความพังแทน มาดูกันดีกว่าว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง

ข้อห้ามมีดังต่อไปนี้

-ห้ามบิด แคะ แกะเกา จมูก แม้จะเพิ่งทำมาหลายคนอาจคิดว่าซิลิโคนนั้นนิ่ม ลองบิดบ้างคงไม่เป็นไร แต่รู้ไหมว่าเป็นสิ่งที่คนคิดผิดมาตลอด ยิ่งในช่วง 3 เดือนแรกหลังทำการเสริมจมูก ไม่ควรกระแทก บิด หรือโดนบริเวณที่เสริมมาแรงๆและถึงแม้ว่าแผลจะหายดีแล้วก็ไม่ควรไปบิด ดึง แคะจมูกที่เสริมมา เพราะอาจทำให้เกิดการบิดเอียงได้

-ในช่วง 1 เดือนแรกที่เราทำการเสริมจมูกควรจะงดเรื่องของการเสริมความงามหรือการเพิ่มความสวยให้กับผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีทเมนท์ การกดสิว การเลเซอร์ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดการอักเสบและมีผลข้างเคียงตามมาได้

-เรื่องของการนอน หลายคนอาจมองข้ามเรื่องนี้ไป โดยหลังการทำจมูกมานั้น ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก ไม่ควรนอนตะแคง ท่านอนที่เหมาะสมคือการนอนหงาย และยกหัวขึ้นเพื่อช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดไม่ให้เกิดอาการบวม และเป็นการป้องกันการเคลื่อนไหวของวัสดุที่นำมาเสริมจมูก

-อีกสิ่งหนึ่งที่ควรระวังนั่นก็คือ เรื่องของการสั่งน้ำมูก ใครที่ชอบสั่งน้ำมูกแรงๆหากมีการเสริมจมูกมาโดยเฉพาะในช่วงแรกที่มีการเสริมจมูกมานั้น การสั่งน้ำมูกแรงๆอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือวัสดุที่เสริมเคลื่อนได้นอกจากนี้น้ำมูกยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้อีกด้วย ใครที่เสริมจมูกมาใหม่ๆจึงต้องระวังเป็นพิเศษ

จะเห็นได้ว่าหลังการเสริมจมูกนั้น การดูแลไม่ได้ยุ่งยากเป็นพิเศษเท่าไหร่นักเพียงแต่ต้องระวังเรื่องของการกระแทกหรือการทำให้จมูกที่เราทำมาเคลื่อน เพื่อให้ผลลัพธ์ของการเสริมจมูกออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะของอิสสวีร์คลินิก ด้วยประสบการณ์การผ่าตัดที่มากกว่า 2,000 เคส คุณหมอสามารถวิเคราะห์รูปหน้าในแต่ละคนได้ว่าเหมาะสมกับการเสริมจมูกแบบไหน ที่เหมาะสมกับรูปหน้า รวมไปถึงการใช้เทคนิคเฉพาะ ในการเหลาซิลิโคนใหม่ทุกเคส เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม

[Top]

รู้ไหมว่าประกันชีวิต มีดีมากกว่าการคุ้มครองชีวิต          

หากกล่าวถึงประกันชีวิตหลายคนก็คงเข้าใจว่าประกันชีวิต ก็คือการคุ้มครองชีวิตกรณีเสียชีวิต แต่รู้กันไหมว่า จริงแล้วประกันชีวิตนั้นให้เราได้มากกว่าการคุ้มครองชีวิตอีก อยากรู้ไหมว่าประกันชีวิตให้อะไรเราได้บ้าง ไปดูกันเลย

1.ประกันชีวิตให้ประโยชน์ด้านทางการเงิน
การทำประกันชีวิต เปรียบได้กับการลงทุนในรูปแบบหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ได้ผลที่คุ้มค่า โดยที่เราไม่ต้องใช้เงินก้อนใดๆเพื่อไปลงทุนเลย นอกจากนี้การชำระเบี้ยประกันชีวิตยังสามารถแบ่งจ่ายได้หลายแบบ ซึ่งผลประโยชน์ที่คงที่และสม่ำเสมอตลอด ไม่มีการปรับลด เราจะได้ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์

2.ประกันชีวิตให้ประโยชน์ด้านการออมเงิน
นอกจากความคุ้มครองชีวิตแล้วประกันชีวิต ยังให้ประโยชน์ทางด้านการออมเงินอีกด้วย ประกันชีวิตสามารถสร้างวินัยทางการเงินได้เป็นอย่างดี เพราะว่าการทำประกันชีวิตนั้น ผู้เอาประกันจะต้องชำระทางเบี้ยประกันภัยอย่างสม่ำเสมอ ถึงจะได้ผลประโยชน์จากการทำประกันชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนทางการเงินในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งหากกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินระหว่างที่กรมธรรม์ยังไม่ครบสัญญา ก็สามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตของคุณเองได้

3.ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบทั่วไป 25,000 บาท และเบี้ยประกันของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท เรียกได้ว่าได้ผลประโยชน์แบบ 2เด้งกันเลยทีเดียว

4.ประกันชีวิตสร้างความมั่นคงให้ชีวิต
การประกันชีวิตสามารถช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้ ในกรณีการทำประกันคุ้มครองการเจ็บป่วย หรือการประกันอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยจะได้เงินทดแทนเพื่อใช้ในการเลี้ยงชีพในกรณีทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงได้อีกด้วย

ทั้ง 4 ข้อนี้นับได้ว่าเป็นข้อดีของประกันชีวิต ที่นอกเหนือจากการคุ้มครองชีวิตที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าคุ้มครองชีวิต มีเงินก้อนให้ครอบครัวได้ใช้ในเวลาไม่อยู่แล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมุมดีของประกันชีวิต ที่บอกได้เป็นอย่างได้ว่าทุกคนควรทำประกันชีวิต หากคุณกำลังวางแผนทำประกันชีวิตดีๆ สักฉบับ เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต เปลี่ยนประกันชีวิตให้ง่ายสำหรับคุณ มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่องด้วยกรมธรรม์ประกันชีวิตที่หลากหลาย รับความคุ้มครองได้แบบออนไลน์ 24 ชม. สะดวก สบาย ทุกที่ทุกเวลา

[Top]

เป็นโรคเข่าเสื่อม แต่ไม่อยากผ่าตัด รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง

โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นได้กับคนที่มีอายุเยอะๆ แต่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาวก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน หากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ระมัดระวังการใช้งานข้อเข่า โดยสิ่งที่น่ากลัวของโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น ไม่เพียงแค่อาการของโรคเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการรักษาโรคดังกล่าวเมื่อเกิดอาการอย่างรุนแรงหรืออยู่ในระยะเรื้อรังที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าหากไม่ใช่การผ่าตัดจะมีวิธีไหนที่จะสามารถรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมได้อีก

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

การรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมนั้นไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัดอย่างเดียว แต่ยังมีวิธีต่างๆ ที่สามารถรักษาอาการเข่าเสื่อมได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในแต่ละวิธีก็ต้องพิจารณาจากอาการ ความรุนแรงและความเหมาะสมของคนไข้ประกอบด้วย โดยส่วนใหญ่แล้ววิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดนั้นมักจะถูกเลือกใช้เป็นวิธีสุดท้ายกับผู้ป่วยที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมรุนแรงหรือเรื้อรัง แต่หากมีอาการไม่รุนแรงหรือแค่เจ็บปวดเล็กน้อยแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการใช้ยา

หนึ่งในวิธีการรักษา บรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมด้วยวิธีการใช้ยา โดยตัวยาที่ใช้ก็จะมีมากมายหลายประเภทตั้งแต่ยาแก้ปวดรับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวด ยาคล้ายกล้ามเนื้อ ยาทาแก้ปวดเฉพาะที่ หรือ ยาต้านอาการอักเสบที่มีทั้งรูปแบบฉีดและรูปแบบรับประทาน เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการใช้ยาเป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากจนเกินไป แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คืออาการข้อเข่าเสื่อมที่อาจจะไม่ได้รักษาได้หายแบบ 100% เต็ม หรือยาบางประเภทก็แค่บรรเทาอาการปวดเบื้อต้น

2. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมที่มีประสิทธิภาพและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยการรักษาทางกายภาพบำบัดอาจจะเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์อาการข้อเข่าเสื่อมด้วยการทำอัลตราซาวน์ เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด จากนั้นจึงเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์รักษา การฉีดน้ำข้อเข่าเทียม การทำกายภาพ การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า หรือการทำช็อคเวฟ เป็นต้น

3. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาข้อเข่าเสื่อม อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ยั่งยืนส่งผลที่ดีในระยะยาวให้กับคนไข้ได้อีกด้วย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้คนมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อมากขึ้น นอกจากนี้คนไข้ยังจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อให้สอดคล้องกับการรักษาด้วยการออกกำลังกายอีกด้วย จึงบอกได้ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและยั่งยืน

จะเห็นได้ว่าหากมีอาการข้อเข่าเสื่อม หรือมีความเสี่ยงคล้ายจะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การรักษาก็ไม่เพียงแต่แค่วิธีการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยเราลดความเสี่ยง และลดค่าใช้จ่ายลงไปได้ อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยเรื่องการรักษาข้อเข่าเสื่อมควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง

รักษาข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องผ่าตัด https://www.rehabcareclinic.com/blog/เข่าเสื่อม-ไม่อยากผ่า-ต้องอ่าน

[Top]