อยากซื้อประกันเดินทาง ต้องเลือกซื้ออย่างไร
เงินพร้อม ใจพร้อมเตรียมตัวออกเดินทาง แพลนเที่ยวพร้อม ทุกอย่างพร้อมแล้วและประกันการเดินทางนั้นยังมีความจำเป็นอยู่ไหม เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรเตรียมเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ และหลายคนก็อาจยังไม่เห็นถึงความสำคัญว่าประกันเดินทางมีประโยชน์อย่างไร ควรเสียเงินซื้อหรือไม่ เรามีคำตอบมาแนะนำและวิธีเลือกซื้อประกันการเดินทางที่เหมาะกับคุณ
ประกันเดินทางคืออะไร
ประกันที่คุ้มครองทั้งชีวิต สุขภาพ ทรัพย์สิน รวมถึงเหตุฉุกเฉินต่างๆที่คุณอาจไม่คาดคิดระหว่างเดินทางในต่างประเทศ มีทั้งแบบรายปีและรายเที่ยว และแต่ละบริษัทฯ ก็จะมีเงื่อนไขและแผนประกันที่แตกต่างกันไป
รายครั้ง/เที่ยว : ประกันการเดินทางที่ให้ความคุ้มครองการท่องเที่ยว 1 ทริป แต่ละบริษัทมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน กำหนดระยะเวลาเดินทางและวันกลับไว้อย่างชัดเจน เหมาะกับคนที่เดินทางไม่บ่อยนัก ซื้อประกันเพื่อคุ้มครองในทริปนั้นๆ
รายปี : โดยประกันรายปีจะให้ความจะให้ความคุ้มครองเหมาการเดินทางเป็นระยะเวลา 1 ปี ก็หมายความว่าที่ทำไปประกันไปนั้นเราจะเดินทางไปต่างประเทศกี่ครั้งก็ได้ ความคุ้มครองก็จะระบุไว่ในกรมธรรม์ ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย
วิธีการเลือกซื้อประกันการเดินทาง
ในเมื่อเข้าใจรูปแบบแล้วว่าประกันการเดินทางต่างประเทศนั้นมีแบบไหนบ้าง ต่อมาก็เป็นวิธีการเลือกซื้อ แต่การจะดูว่าเราควรทำประกันเดินทางต่างประเทศกับที่ไหนดีนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมองหาประกันเดินทางที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด ความคุ้มครองคุ้มค่ามากที่สุด หากต้องซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ
-คุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะของผู้เอาประกันภัย
-คุ้มครองกรณีกระเป๋าเดินทางสูญหาย หรือความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง
-คุ้มครองกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก หยุดชะงักการเดินทาง หรือความล่าช้าของเที่ยวบิน
-คุ้มครองกรณีทรัพย์สินสูญหาย หรือเอกสารเดินทางสูญหาย
-คุ้มครองค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือรักษาพยาบาลฉุกเฉิน
-คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายและส่งกลับประเทศเพื่อรักษาพยาบาล
หากคุณสนใจซื้อประกันเดินทางสามารถซื้อได้ทางผ่านบริษัทโดยตรงหรือตัวแทนขาย ขึ้นอยู่กับความสะดวกสามารถซื้อออนไลน์ได้ง่ายๆ เลย ท้ายสุดไม่ว่าจะเป็นประกันเดินทางรูปแบบไหน เมื่อคุณไปต่างประเทศการซื้อประกันเดินทางก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ช่วยสร้างความอุ่นใจตลอดการเดินทาง หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันการเดินทาง คลิก https://www.aig.co.th/personal/travel-guard-insurance/travel-guard-international
ออมเงินกับประกันออมทรัพย์มีข้อดีอย่างไร
หลายคนในวัยทำงานคงให้ความสำคัญกับสุขภาพ การดูแลชีวิตและให้ความสำคัญกับการเก็บออม และเงินเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องใช้ในอนาคต และการเริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้ การลงทุนกับประกันออมทรัพย์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เงินงอกเงย เรามาดูข้อดีของประกันออมทรัพย์กันว่ามีข้อดีอย่างไร
ประกันออมทรัพย์คืออะไร
เป็นประกันที่อยู่ในรูปแบบของการออมเงินซึ่งผู้ที่เอาประกันต้องทำการส่งเบี้ยให้ครบกำหนดตามจำนวนปีที่กำหนดของกรมธรรม์ จึงจะสามารถรับเงินทุนประกันเป็นเงินก้อนพร้อมดอกเบี้ย แต่หากเสียชีวิตก่อนที่จะครบสัญญา ทางประกันจะจ่ายเงินเอาประกันตามที่ระบุในสัญญาให้กับทายาทหรือผู้ได้รับผลประโยชน์
ข้อดีของการมีประกันออมทรัพย์
การมีประกันช่วยให้สร้างความมั่นคง : ทุกการลงทุนย่อมมีผลตอบแทน การลงทุนกับประกันออมทรัพย์อาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า และมีความเสี่ยงต่ำจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าแน่นอน ถ้าส่งเบี้ยจนครบกำหนดกรมธรรม์ก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มสุดๆ
สร้างวินัยในการออม : การทำประกันออมทรัพย์คุณจำเป็นที่จะต้องส่งเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอในช่วงตลอดสัญญา จึงเป็นการช่วยสร้างวินัยในการออมและส่งเงินตรงเวลา และให้คุณมั่นใจได้ว่าถ้าส่งเบี้ยประกันอย่างต่อเนื่อง คุณจะมีเงินก้อนสำรองไว้ใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน
ใช้ลดหย่อนภาษีได้ : เบี้ยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร
มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน : ช่วยให้คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะมีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินแน่นอน ถ้าเกิดเหตุที่คุณต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนที่จะต้องใช้เงิน แล้วไม่สามารถหยิบยืมเงินจากคนอื่นได้ ก็สามารถเลือกเวนคืนกรมธรรม์ เพื่อนำเงินออกมาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นได้นั่นเอง
รายละเอียดของประกันออมทรัพย์แต่ละบริษัทจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการส่งเบี้ยประกันและระยะเวลาคุ้มครอง ดังนั้น ควรศึกษาและเปรียบเทียบอย่างละเอียด นำเบี้ยที่ส่งและจำนวนเงินที่จะได้คืนของแต่ละบริษัท แต่ละประกัน มาเปรียบเทียบกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ หากสนใจสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันที่สนใจได้เลย หรือหากคุณสนใจทำประกันออมทรัพย์สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kwilife.com/endowment
[Top]ครอบฟัน VS อุดฟัน วิธีไหนที่เหมาะกับสภาพฟันของคุณ
เมื่อฟันมีปัญหาแตกหัก ฟันผุ สามารถเลือกบูรณะได้ด้วยการครอบฟันหรืออุดฟัน แต่ทันตกรรมทั้งสองแบบมีข้อดีและเหมาะสมกับปัญหาทันตกรรมที่ต่างกัน เพื่อฟื้นฟูการทำงานของฟันให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าการครอบฟันกับอุดฟันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จักกับการอุดฟัน
การอุดฟันเป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้ในการรักษาฟันผุ ฟันผุเล็กน้อย และฟันแตกหักขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะประกอบด้วยวัสดุ เช่น อะมัลกัม เรซินคอมโพสิต หรือพอร์ซเลน การอุดฟันได้รับการออกแบบมาเพื่ออุดส่วนที่เสียหายหรือผุของฟัน เป็นทางเลือกแบบรักษาโครงสร้างฟันเดิมไว้
ข้อดีของการอุดฟัน
1. การอุดฟันจะรักษาโครงสร้างของฟันเดิมไว้มากกว่ากว่าเมื่อเทียบกับครอบฟัน
2. กระบวนการอุดฟันจะใช้เวลารวดเร็ว
3. โดยทั่วไปการอุดฟันจะประหยัดกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับครอบฟัน
ทำความรู้จักกับการครอบฟัน
ในทางกลับกัน ครอบฟันเป็นการบูรณะที่ครอบคลุมมากกว่า โดยครอบฟันส่วนที่มองเห็นได้ทั้งหมด สามารถครอบฟันได้ทั้งฟันหน้าและฟันหลัง มักใช้เพื่อรักษาฟันที่มีความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงฟันผุขนาดใหญ่ ฟันหักรุนแรง หรือการครอบฟันหลังการรักษารากฟัน ครอบฟันมักทำจากวัสดุอย่างพอร์ซเลน เซรามิค โลหะผสม หรือวัสดุเหล่านี้ผสมกัน
ข้อดีของครอบฟัน
1. การครอบฟันช่วยเพิ่มการรองรับฟันที่อ่อนแอหรือเสียหาย ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของฟันได้
2. ครอบฟันสามารถแก้ไขลักษณะฟัน แก้ปัญหาทั้งด้านโครงสร้างและด้านความสวยงามของฟันให้ฟันขาวขึ้น เรียงตัวกันสวยขึ้นกว่าเดิมได้
3. ครอบฟันมีชื่อเสียงในด้านความทนทาน จึงสามารถแก้ปัญหาที่มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อคุณรักษาสุขภาพฟันอย่างดี จะยิ่งสามารถยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม
การเลือกระหว่างครอบฟันและการอุดฟันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฟัน ตำแหน่งของฟันที่ได้รับผลกระทบ และการพิจารณาสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล ก่อนทำการรักษาทันตแพทย์ของคุณจะทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม ให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและความงามของรอยยิ้มของคุณ
[Top]ประกันออมทรัพย์ระยะสั้นกับระยะยาวแบบไหนดีกว่ากัน
ประกันออมทรัพย์มีทั้งระยะสั้นและระยะยาว และความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของคุณเอง เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต ขอพาคุณมาดูความแตกต่างระหว่างประกันออมทรัพย์ระยะสั้นและประกันออมทรัพย์ระยะยาวกันค่ะ มาดูกันเลย
ประกันออมทรัพย์ระยะสั้น
ระยะเวลา ประกันระยะสั้นมักมีอายุสัญญาเพียงไม่กี่ปี (เช่น 1-5 ปี) และมักมีค่าเบี้ยรายปีที่เร็วคืนในระยะเวลาสัญญา. ประโยชน์ ประกันระยะสั้นเหมาะสำหรับการสะสมเงินในระยะสั้นๆ เพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันหรือสำรองเงินเผื่อการฉุกเฉิน.
ข้อจำกัด ระยะสั้นมักมีค่าเบี้ยสูงกว่า และไม่มีการสร้างมูลค่าสะสมในระยะยาว. ไม่มีความคุ้มครองที่มีในประกันชีวิตระยะยาว.
ประกันออมทรัพย์ระยะยาว
ระยะเวลา ประกันระยะยาวมักมีระยะเวลานานกว่า (เช่น 10 ปีขึ้นไป) และมักมีการสะสมมูลค่าที่สูงขึ้นตามเวลา.
ประโยชน์ ประกันระยะยาวเหมาะสำหรับการออมเงินในระยะยาวเพื่อวัตถุประสงค์เช่นการเกษียณ,การศึกษาของลูก,หรือการสร้างทรัพย์สินในอนาคต.
ข้อจำกัด ค่าเบี้ยส่วนใหญ่มีมูลค่าสูงตามระยะเวลาและค่าเบี้ยรายปีในระยะแรกอาจสูงกว่าประกันระยะสั้น.
เมื่อเลือกประกันออมทรัพย์ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์และความต้องการของคุณ ถ้าคุณต้องการออมเงินในระยะสั้นเพื่อสำรองเงินสำหรับฉุกเฉินหรือรายได้ประจำ ประกันระยะสั้นอาจเหมาะสมกว่า แต่หากคุณต้องการสร้างมูลค่าสะสมในระยะยาวเพื่อวัตถุประสงค์ระยะยาว ประกันระยะยาวอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า. คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือตัวแทนประกันภัยเพื่อช่วยคุณเลือกแผนที่เหมาะสมกับสถานะและวัตถุประสงค์ของคุณ หากผู้อ่านท่านใดมีความสนใจหรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำประกันออมทรัพย์สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต ที่มอบผลตอบแทนและความคุ้มครองให้คุณอย่างสูงสุด ดูแลใส่ใจห่วงใยทุกกรมธรรม์ค่ะ
[Top]วิธีเตรียมตัวก่อนทำ sculptra
Sculptra หนึ่งในนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ช่วยชะลอวัย ฟื้นฟูผิวให้ใบหน้ายกกระชับ การเตรียมตัวก่อนการทำ Sculptra คือขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาดีขึ้นและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการทำบริการดังกล่าว ดังนั้นนี่คือขั้นตอนที่ควรทำเมื่อเตรียมตัวก่อนการทำ
ปรึกษาแพทย์: โดยแพทย์จะสอบถามถึงผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการเป็นสำคัญ จากนั้นจะทำการตรวจวิเคราะห์สภาพผิวหนังและโครงสร้างในชั้นลึก เพื่อค้นหาส่วนที่เป็นปัญหา ซึ่งหากประเมินกับคนไข้แล้วว่า สามารถเลือกเป็น Sculptra ได้ จะทำการวางแผนการรักษาเฉพาะรายให้ รวมถึงจำนวนครั้งเพื่อผลลัพธ์สูงสุด
ออกแบบแผนการรักษา: รับคำแนะนำจากแพทย์ในการกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณ ซึ่งรวมถึงปริมาณ Sculptra ที่จะใช้และจุดที่จะฉีด
หยุดการใช้ยาบางชนิด: แพทย์อาจแนะนำให้คุณหยุดใช้บางชนิดของยาก่อนการทำ Sculptra เนื่องจากมีความเสี่ยงของภาวะอาการหายใจกำเนิด
ป้องกันการติดเชื้อ: แพทย์อาจแนะนำให้คุณเรียกใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อในระหว่างการทำ เช่น อย่าสัมผัสสิ่งของที่ไม่สะอาดบริเวณที่ฉีด และรักษาบริเวณที่ฉีดให้สะอาด
ออกกำลังกาย: แพทย์อาจแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหลังจากการทำ เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่ไม่พึงประสงค์ของสาร
ดูแลหลังทำ Sculptra : หลังจากการทำคุณจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด รวมถึงการฟื้นฟูแผลบริเวณที่ฉีด
ผลลัพธ์หลังทำ : ผลลัพธ์ของ Sculptra จะเริ่มแสดงผลเมื่อผ่านไปเวลา 2-6 สัปดาห์หรือมากกว่า ดังนั้นคุณควรมีความอดทนและรอรับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตามเวลา
อาการหลังฉีด Sculptra
การฉีด Sculptra จะมีอาการคล้ายการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีแดง ช้ำ บวม และกดเจ็บบริเวณที่ฉีด ซึ่งส่วนมากจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือ 2-3 วันหลังฉีด แต่ในบางท่านที่ช้ำง่ายก็อาจจะนานถึง 14 วันได้ แต่โดยประสบการณ์ของหมอที่อิสสวีร์คลินิก เนื่องจากการฉีด Sculpra จะใช้เทคนิคเข็มทู่ ฉีดบริเวณด้านข้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่ช้ำยากกว่า จึงแทบไม่พบปัญหาการช้ำนาน ๆ เลย
คุณควรพูดคุยกับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนการทำ Sculptra โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับความเหมาะสมและคำแนะนำที่เฉพาะตัวสำหรับท่านเอง หากคุณสนใจฉีด Sculptra อิสสวีร์คลินิก เรายินดีให้บริการเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนได้เลยนะคะ
[Top]