เดือน: สิงหาคม 2022

เป็นโรคเข่าเสื่อม แต่ไม่อยากผ่าตัด รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง

โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นได้กับคนที่มีอายุเยอะๆ แต่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาวก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน หากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ระมัดระวังการใช้งานข้อเข่า โดยสิ่งที่น่ากลัวของโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น ไม่เพียงแค่อาการของโรคเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการรักษาโรคดังกล่าวเมื่อเกิดอาการอย่างรุนแรงหรืออยู่ในระยะเรื้อรังที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าหากไม่ใช่การผ่าตัดจะมีวิธีไหนที่จะสามารถรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมได้อีก

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

การรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมนั้นไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัดอย่างเดียว แต่ยังมีวิธีต่างๆ ที่สามารถรักษาอาการเข่าเสื่อมได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในแต่ละวิธีก็ต้องพิจารณาจากอาการ ความรุนแรงและความเหมาะสมของคนไข้ประกอบด้วย โดยส่วนใหญ่แล้ววิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดนั้นมักจะถูกเลือกใช้เป็นวิธีสุดท้ายกับผู้ป่วยที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมรุนแรงหรือเรื้อรัง แต่หากมีอาการไม่รุนแรงหรือแค่เจ็บปวดเล็กน้อยแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการใช้ยา

หนึ่งในวิธีการรักษา บรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมด้วยวิธีการใช้ยา โดยตัวยาที่ใช้ก็จะมีมากมายหลายประเภทตั้งแต่ยาแก้ปวดรับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวด ยาคล้ายกล้ามเนื้อ ยาทาแก้ปวดเฉพาะที่ หรือ ยาต้านอาการอักเสบที่มีทั้งรูปแบบฉีดและรูปแบบรับประทาน เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการใช้ยาเป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากจนเกินไป แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คืออาการข้อเข่าเสื่อมที่อาจจะไม่ได้รักษาได้หายแบบ 100% เต็ม หรือยาบางประเภทก็แค่บรรเทาอาการปวดเบื้อต้น

2. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมที่มีประสิทธิภาพและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยการรักษาทางกายภาพบำบัดอาจจะเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์อาการข้อเข่าเสื่อมด้วยการทำอัลตราซาวน์ เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด จากนั้นจึงเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์รักษา การฉีดน้ำข้อเข่าเทียม การทำกายภาพ การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า หรือการทำช็อคเวฟ เป็นต้น

3. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาข้อเข่าเสื่อม อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ยั่งยืนส่งผลที่ดีในระยะยาวให้กับคนไข้ได้อีกด้วย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้คนมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อมากขึ้น นอกจากนี้คนไข้ยังจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อให้สอดคล้องกับการรักษาด้วยการออกกำลังกายอีกด้วย จึงบอกได้ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและยั่งยืน

จะเห็นได้ว่าหากมีอาการข้อเข่าเสื่อม หรือมีความเสี่ยงคล้ายจะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การรักษาก็ไม่เพียงแต่แค่วิธีการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยเราลดความเสี่ยง และลดค่าใช้จ่ายลงไปได้ อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยเรื่องการรักษาข้อเข่าเสื่อมควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง

รักษาข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องผ่าตัด https://www.rehabcareclinic.com/blog/เข่าเสื่อม-ไม่อยากผ่า-ต้องอ่าน

เมื่อได้กรมธรรม์ประกันชีวิตแล้ว อย่าลืม 3 สิ่งที่ควรเช็คและต้องรู้

ในการทำประกันชีวิตหลังจากที่มีการจ่ายค่าเบี้ยประกันและทำสัญญาประกันภัยแล้ว ทางบริษัทจะมีหนังสือฉบับหนึ่งให้ผู้ทำประกันเก็บไว้ นั่นก็คือ กรมธรรม์  ซึ่งกรมธรรม์ คือ เอกสารที่ทางบริษัทประกันออกให้กับผู้เอาประกัน เพื่อให้ทราบรายละเอียดของประกันที่ทำ เงื่อนไขและข้อยกเว้น ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องยืนยันความคุ้มครองจากบริษัทประกัน เมื่อเราได้รับกรมธรรม์แล้วอย่าลืม 3 เช็คต่อไปนี้

1.เช็คส่วนสรุปกรมธรรม์
ส่วนสรุปกรมธรรม์จะอยู่ช่วงหน้าแรกของเล่มกรมธรรม์ โดยต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ชื่อแผนประกันชีวิต,ประเภทของประกันและบริษัทผู้รับทำประกัน วันที่เริ่มทำสัญญา,วันสิ้นสุดสัญญาและอายุของผู้เอาประกันตอนเริ่มทำสัญญา  ระยะเวลาความคุ้มครองตามสัญญา,ค่าเบี้ยและระยะเวลาจ่ายเบี้ยอาจเป็นรายเดือน/ปี จำนวนเงินเอาประกัน สัญญาเพิ่มเติม เช่น ความคุ้มครองเพิ่มเติมในเรื่องสุขภาพ

2.เช็คผลประโยชน์
เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลยกับ รายละเอียดของผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งกรณีที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือ เสียชีวิต รวมไปถึง เงินคืนเมื่อสิ้นปีกรมธรรม์ อยู่ครบสัญญาได้เพิ่มอีกเท่าไหร่ เสียชีวิตได้เท่าไหร่ ในกรมธรรม์จะต้องระบุข้อมูลพวกนี้ให้ครบ พร้อมทั้งเปรียบเทียบเป็นอัตราส่วนในรูปแบบร้อยละ

3.เช็คข้อมูลตารางมูลค่าเงินสด
ส่วนนี้เป็นส่วนสุดท้ายของเล่มกรมธรรม์ ซึ่งจะแสดงตารางที่ข้อมูลสิทธิ์ขยายความคุ้มครอง,สิทธิ์เวนคืนมูลค่าเงินสด และสิทธิ์แปลงเป็นกรมธรรม์เงินสำเร็จ โดยทั้งหมดจะเป็นตารางตัวเลขสำหรับจำนวนเงินเอาประกันทุก 1 พันบาท ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการหยุดจ่ายเบี้ย ตารางข้อมูลนี้ จะช่วยให้สามารถคำนวณได้รวดเร็ว

จะเห็นได้ว่า เพียงแค่กรมธรรม์เล่มเดียว แต่มีถึง 3 ส่วนที่เราต้องเช็ค เพราะทั้ง 3 ส่วนนี้คือสิทธิ์และผลประโยชน์ของตัวเราที่จะได้จากการทำประกันชีวิต ซึ่งถ้าหากเราไม่ตรวจเช็คให้ดี บางครั้งอาจจะทำให้เราเสียสิทธิ์หรือผลประโยชน์ในตัวประกันได้ เนื่องจากข้อมูลไม่ถูกต้องหรือการทำผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ ซึ่งในบางครั้งนายหน้าหรือกรมธรรม์ก็ไม่ได้แจ้งเราทั้งหมด หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันชีวิตสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KWI Life ที่ทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

[Top]

รู้ไหม ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศและไม่เติมอากาศ ต่างกันอย่างไร

ถังบำบัดน้ำเสีย คือ การใช้จุลินทรีย์กำจัดจุลินทรีย์กากของเสียซึ่งไหลลงสู่ถังบำบัดน้ำเสีย จะตกตะกอนอยู่ก้นถังที่เต็มไปด้วยจุลินทรีย์คอยย่อยสลาย ซึ่งจะทำให้น้ำไม่มีกากของเสียและปล่อยสู่ระบบสาธารณะได้ ซึ่งจะมี อยู่ 2 รูปแบบที่นิยมใช้กัน ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ และ ถังบำบัดน้ำเสียแบบไม่เติมอากาศ ซึ่งหลายคนก็ยังสงสัยว่าทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไร

ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ คือ ถังบำบัดน้ำเสียที่มีระบบเกรอะและกรองภายในถังเดียวกัน  ซึ่งจะมีท่อเติมอากาศ ที่มีหน้าที่นำอากาศจากปั๊มเติมอากาศ เข้ามาภายในตัวถัง เพื่อให้ตัวจุลินทรีย์ใช้อากาศในการย่อยสลายของเสีย ซึ่งจุลินทรีย์จะย่อยสลายสิ่งปฏิกูลที่เป็นอินทรีย์สารในน้ำเสีย

ถังบำบัดน้ำเสียแบบไม่เติมอากาศ คือ ถังบำบัดน้ำเสียแบบทั่วไป ที่ไม่มีท่ออากาศมาเติม มีเพียงจุลินทรีย์ในถังเท่านั้น ซึ่งเรื่องของการบำบัดน้ำเสียถือเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะระบบบำบัดน้ำเสียนั้นมีผลกระทบต่อระบบสิ่งแวดล้อมของสาธารณะ ซึ่งหากใช้ถังบำบัดน้ำเสียที่ผิดวิธีหรือไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้น้ำเสียที่ปล่อยสู่สาธารณะนั้น เกิดกลิ่นและมลพิษทางน้ำ ซึ่งปกติแล้วถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ และ ถังบำบัดน้ำเสียแบบไม่เติมอากาศ นั้นรูปลักษณ์ภายนอกจะเหมือนกัน แต่ข้อแตกต่างก็คือ ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ นั้นจะมีการใส่ท่ออากาศ ขนาดตั้งแต่ 1-2 นิ้ว และจะมีปั๊มเติมอากาศ ซึ่งจะมีหน้าที่จ่ายลมเข้าไปในตัวถังบำบัดเพื่อเพิ่มออกซิเจน ซึ่งถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ จะสามารถบำบัดน้ำเสียได้ดีกว่าแบบไม่เติมอากาศ ซึ่งถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ จะมีค่า BOD ไม่เกิน 20 mg/liter ซึ่งถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าถังแบบไม่เติมอากาศ

จะเห็นได้ว่า ถังบำบัดน้ำเสียทั้งสองแบบจะมีรูปร่างภายนอกที่เหมือนกันเพียงแต่จะต่างในเรื่องของกลไกการทำงานภายใน ซึ่งการใช้ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ นั้นจะทำให้คุณภาพของน้ำเสียที่ถูกบำบัดออกมา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า หากผู้อ่านท่านใดอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถังบำบัดน้ำเสีย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ DOSE LIFE ผู้จัดจำหน่ายและเชี่ยวชาญด้านถังเก็บน้ำมาอย่างยาวนาน คุณภาพดี ทนทาน มีประสิทธิภาพ อายุการใช้งานยาวนาน

[Top]

ก่อนทำวีเนียร์ฟันขาว ควรทำการบ้านเรื่องอะไรบ้าง

สำหรับการรักษาทันตกรรมในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายวิธีการ โดยแต่ละวิธีการรักษานั้นก็เพื่อแก้ไขปัญหาทันตกรรมของคนไข้ได้อย่างตรงจุดและก็เพื่อให้คนไข้นั้นกลับมามีสุขภาพฟันที่แข็งแรงสมบูรณ์อีกครั้ง โดยหนึ่งในการทำทันตกรรมเพื่อรักษาฟันให้คงรูปร่างเดิมไว้เสมือนก่อนหรือจะเรียกว่าการทำทันตกรรมเพื่อความงามอย่างการทำ วีเนียร์ฟันขาว ก็เป็นหนึ่งในการทำทันตกรรมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

ด้วยความนิยมในปัจจุบันของการทำวีเนียร์ทำให้หลายต่อหลายคนเริ่มคิดตัดสินใจวางแผนที่จะทำวีเนียร์ฟันขาวดูบ้าง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำวีเนียร์ฟันขาวได้นั้น ก็มีสองถึงสามเรื่องที่ควรทำการบ้านให้ดีเสียก่อน ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาแนะนำเรื่องที่ควรทำการบ้านก่อนตัดสินใจทำวีเนียร์ฟันขาวให้ทุกคนได้ดูกัน

ก่อนทำวีเนียร์ฟันขาว

วีเนียร์ฟันขาวคืออะไร

เรื่องแรกที่ควรทำการบ้านก่อนตัดสินใจทำวีเนียร์ฟันเลยนั่นคือการทำวีเนียร์ฟันขาวคืออะไร โดยการทำวีเนียร์ฟันขาวก็คือ หนึ่งในวิธีการเคลือบผิวฟันด้วยการใช้วัสดุที่มีลักษณะ ความบาง และสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ มาติดบริเวณด้านหน้าขอฟัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยในเรื่องของความสวยงามของฟัน แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาการทำร้ายผิวฟัน ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยอายุการใช้งานของวีเนียร์นั้นสามารถอยู่ได้นาน 10-15 ปีเลยทีเดียว

วีเนียร์ฟันขาวช่วยในเรื่องอะไร

อย่างที่ชื่อก็บอกไว้ว่าวีเนียร์ฟันขาวจุดประสงค์ก็เพื่อปกปิดและแก้ไขฟันที่มีสีไม่สม่ำเสมอเช่นฟันเหลือง ฟันมีสีเข้ม เป็นต้น แต่นอกจากนั้นการทำวีเนียร์ฟันยังช่วยบำรุงและดูแลสุขภาพฟันในเรื่องต่างๆ ได้อีกด้วยเช่น ช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟันห่าง ฟันบิด ฟันซ้อน หรือฟันเก ฟันที่ได้รับความเสียหายเช่น ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันสึก หรือฟันกร่อน เป็นต้น

ทำวีเนียร์ฟันขาวที่ไหนดี

เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ควรทำการบ้านก่อนตัดสินใจทำวีเนียร์ฟันขาวนั่นก็คือ การเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ทำวีเนียร์ฟัน สถานที่ให้บริการวีเนียร์ที่เราควรจะตัดสินใจเลือกนั้นควรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการทำทันตกรรมเพื่อความงาม เพราะการรักษาทันตกรรมทั่วไปกับการทำทันตกรรมเพื่อความงามนั้นค่อนข้างจะมีความแตกต่างกันพอสมควร ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกก็ควรพิจารณาในข้อนี้ให้ดีเสียก่อน

[Top]