รวมเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับบัตรแรบบิท

Posted on พฤศจิกายน 30, 2021 inUncategorized

คุณรู้หรือไม่ว่าบัตรแรบบิทที่คุณใช้ขึ้นรถไฟฟ้านั้น มีประโยชน์มากกว่าแต่บัตรผ่านโดยสารเพียงเท่านั้น ถ้าใช้อย่างรู้คุณค่ามันจะพาเราไปสนุกกับโลกไร้เงินสด เรียกได้ว่าพกใบเดียวก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย วันนี้เราได้นำเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการใช้บัตรแรบบิทมาฝากกัน

บัตรแรบบิทคืออะไร
บัตรแรบบิท คือ ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระบบแรกในประเทศไทยที่ มีระบบตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอสและระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ รวมถึง สินค้าและบริการชั้นนำที่ครอบคลุม และ ตอบสนอง ทุกการจับจ่ายให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น นอกจากจะใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ยังครอบคลุมการชำระค่าโดยสารของระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เช่น รถโดยสารประจำทาง, เรือโดยสาร เป็นต้น

• ระบบ แรก และ ระบบเดียว ที่รองรับระบบตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอสและระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ
• รองรับทุกความต้องการด้วยระบบการเติมเงินทั้ง แบบตั๋วโดยสารรายเดือน และ ตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว
• สะดวก ปลอดภัย และ ประหยัดเวลา ในการซื้อตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวหรือแลกเหรียญ
• รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำทั่วไป และสิทธิประโยชน์พิเศษจากโปรแกรม “แรบบิท รีวอร์ดส”
• ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด สะดวกทุกการ จับจ่าย ผ่านร้านค้าและบริการชั้นนำ อาทิ McDonald’s, Burger King, Auntie Anne’s, Baskin Robbins, Coffee Today, Dairy Queen, Dunkin’ Donuts และอีกมากมาย
• สะดวก ปลอดภัย และ ประหยัดเวลา ผ่านการใช้ “บัตรแรบบิท” แทนเงินสด
• ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

รถโดยสารประจำทาง ที่สามารถจ่ายค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิทได้ มีให้บริการทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และภูเก็ต รวมทั้งหมด 7 เส้นทาง ได้แก่ รถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที , รถโดยสารสมาร์ทบัส , ภูเก็ต สมาร์ทบัส ,ไมโครบัส Y70E หมอชิต – ศาลายา , มินิบัสโพธิ์ทอง หาดใหญ่-สงขลา

เรือโดยสาร ที่สามารถชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิท เจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ท (ธงฟ้า) ,เรือข้ามฟาก ท่าพระจันทร์ – ท่ามหาราช ,เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ , เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงแดง)

และนี่ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการใช้บัตรแรบบิท ซึ่งจริงๆแล้วบัตรแรบบิทไม่ได้ใช้เพียงแค่เดินทางผ่านรถไฟฟ้าเพียงเท่านั้น ยังสมารถใช้ได้รถประจำทางหรือเรือโดยสารได้อีกด้วย ในขณะนี้ทางบีทีเอส เริ่มใช้โปรโมชั่นใหม่ “ยิ่งติ๊ด ยิ่งได้ ยืดหยุ่นโดนใจกว่า” มอบสิทธิพิเศษผ่าน แรบบิท รีวอร์ดส “Rabbit Rewards” โปรแกรมสะสมพอยท์จากการเดินทาง หรือการใช้จ่ายในร้านค้าที่ร่วมรายการแลกรับสิทธิเที่ยวเดินทางฟรี รวมถึงส่วนลด และสิทธิพิเศษต่างๆ โดยโปรโมชั่นใหม่นี้มีระยะเวลา 1 ปี เลยทีเดียว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.springnews.co.th/pr-news/news/817684

3 มะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย

Posted on พฤศจิกายน 11, 2021 inUncategorized

โรคมะเร็งอัตราการเสียชีวิตยังคงครองอันดับ1 ในทุกปี เพราะพฤติกรรมต่าง ๆ ที่คอยทำร้ายสุขภาพคุณผู้ชายทั้งแบบรู้ตัว และแบบไม่รู้ตัว ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของคนในยุคปัจจุบันที่มีความเสี่ยงมากมายทั้งการใช้ชีวิตและอาหารการกิน ซึ่ง 3 โรคมะเร็งยอดฮิตที่พบบ่อยในผู้ชายมีดังต่อไปนี้

มะเร็งปอด
โรคมะเร็งที่พบได้บ่อยในเพศชายคือ โรคมะเร็งปอด ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้ชายทั่วโลก ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดโรคเป็นที่รู้กันดีว่ามาจากการสูบบุหรี่ โดยปัจจุบันพบว่า 1 ใน 10 ของผู้สูบบุหรี่จะเป็นโรคมะเร็ง และ 1 ใน 6 คนที่สูบติดต่อกันจะพบว่าส่วนใหญ่เป็นมะเร็งปอด และ 85% มักมีอาการนำ คือ ไอ บางครั้งอาจมีเลือดปนออกมา หายใจสั้นลง เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยง่ายกว่าปกติ หายใจลำบาก เจ็บบริเวณทรวงอก น้ำหนักลดมากกว่าปกติ มีไข้เรื้อรัง อาจมีสาเหตุจากมะเร็งปอดได้
การรักษามะเร็งปอด : มีทั้งการผ่าตัด แต่จะทำในกรณีที่ขนาดก้อนเนื้อไม่ใหญ่มาก การฉายแสงร่วมกับการให้เคมีบำบัด เพื่อยับยั้งชะลอการลุกลาม ประคับประคองตามอาการ เมื่อเป็นแล้วโอกาสในการรักษาให้หายขาดนั้นค่อนข้างน้อย การป้องกันที่ดีที่สุดคือไม่สูบบุหรี่ หรือหากสูบบุหรี่อยู่ก็ควรลด ละ เลิก ให้เร็วที่สุด จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก

มะเร็งสำไส้ใหญ่
โดยผู้ชายจะมีโอกาสเสี่ยงพบมากขึ้นเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป กลุ่มเสี่ยงสูงคือ บุคคลที่มีประวัติครอบครัวใกล้ชิดเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้เช่นกัน ในระยะแรก ๆ อาจจะไม่มีอาการใด ๆ หรืออาจมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คล้ายโรคกระเพาะ เมื่อเป็นมากขึ้นอาจมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ลักษณะการขับถ่ายอาจเปลี่ยนไปเป็นเพราะลำไส้อุดตัน
การรักษามะเร็งลำไส้ : ทำได้ทั้งการผ่าตัดนำส่วนที่เป็นมะเร็งออก และการให้ยาเคมีบำบัด พบว่าการให้ยาเคมีบำบัดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถป้องกันการกลับมาของโรคได้ดีขึ้น แม้แต่ผู้ป่วยในระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะที่โรคแพร่กระจายแล้ว คนส่วนใหญ่คิดว่าไม่สามารถรักษาได้ หากผู้ป่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง มีกำลังใจที่ดี และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ควรรับประทานอาหารที่มีเส้นกากใยมาก เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีแคลเซียมสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันและแคลอรี่สูง งดสูบบุหรี่ รวมถึงหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี

มะเร็งตับ
หนึ่งในมะเร็งยอดฮิตที่พบได้บ่อย และพบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในชายไทย ซึ่งมะเร็งชนิดนี้มีความรุนแรง มีการเจริญเติบโตของโรคที่รวดเร็ว และที่สำคัญรักษาได้ยาก ปัจจุบันคนไทยอาจดื่มเหล้าลดลง ทำให้คนที่เป็นโรคตับแข็งจากการดื่มเหล้าน้อยลงไปด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้พบว่า คนไข้คนหนึ่งที่ตับอักเสบจากการกินยาดอง หรืออาหารหมักดองเกือบทุกวัน จนกระทั่งมีตับแข็งระยะเริ่มต้น และตรวจพบก้อนเนื้อที่อาจเป็นมะเร็งตับ
การรักษามะเร็งตับ : ทำได้หลายวิธี มีทั้งการผ่าตัด การฉีดยาเข้าก้อนมะเร็งโดยตรงในมะเร็งระยะเริ่มแรก การฉีดยาเคมี หรือสารอุดตันเข้าเส้นเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง ซึ่งการใช้ยาเคมีส่วนใหญ่รักษาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอจะดีที่สุด

โรคมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย หากในวันนี้คุณแข็งแรงและเตรียมประกันมะเร็งไว้ให้พร้อม Cancer Can Go ประกันมะเร็งเดียวที่ให้ความคุ้มครองคุณ ทั้งค่ารักษาพยาบาล และเงินคุ้มครองก้อนใหญ่หากตรวจพบมะเร็งระยะลุกลาม และยังพร้อมคืนเป็นเงินก้อนให้คุณยามเกษียณ ให้เบี้ยประกันคุณไม่ต้องเสียเปล่า
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.kwilife.com/cancer-can-go

ท้องไม่ยุบหลังคลอดใช้การดูดไขมันหน้าท้องได้หรือไม่

Posted on พฤศจิกายน 10, 2021 inUncategorized

เรื่องหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ การดูดไขมันหน้าท้องไม่สามารถใช้ได้กับคนไข้ทุกราย แม้แต่คนที่มีปริมาณไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องค่อนข้างมาก ก็ยังมีข้อจำกัดว่าไขมันที่มากเกินไปนั้นไม่อาจรักษาด้วยการดูดไขมันเพียงอย่างเดียวได้ เพราะการดูดไขมันออกอย่างรวดเร็วจะส่งผลกระทบต่อความสมดุลของร่างกายจนเกิดอันตรายได้ ดังนั้นกรณีของคนท้องที่ผ่านการคลอดลูกมาแล้วจึงต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ถึงจะบอกได้ว่าใช้วิธีดูดไขมันช่วยได้หรือไม่

การดูดไขมันหน้าท้องใช้ได้กับคนท้องที่มีไขมันสะสม
หัวใจสำคัญของการดูดไขมันหน้าท้องคือเอาไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกาย ไม่ใช่การทำให้หน้าท้องแบนราบ ที่เราเห็นว่ารอบเอวเล็กลงนั้นเป็นผลพลอยได้ไม่ใช่กระบวนการที่เกิดขึ้นโดยตรง หมายความว่าถ้าคุณแม่คลอดลูกเรียบร้อยแล้วหน้าท้องไม่ยุบ ซึ่งมีผลมาจากการบำรุงร่างกายช่วงตั้งท้อง ทานอาหารมากกว่าปกติ และเคลื่อนไหวร่างกายน้อยกว่าปกติจนมีไขมันสะสมเพิ่มขึ้น แบบนี้ก็สามารถใช้วิธีดูดไขมันช่วยได้แน่นอน แต่ถ้าหน้าท้องนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในที่ไม่ใช่ไขมันก็ต้องเลือกใช้การรักษาแบบอื่น

การดูดไขมันหน้าท้องไม่อาจทำหลังคลอดได้ทันที
ถ้าตรวจร่างกายแล้วพบว่ามีไขมันสะสมและสามารถดูดไขมันหน้าท้องช่วยได้ ก็ต้องมาพิจารณาในเรื่องความพร้อมของร่างกายร่วมด้วย คุณแม่ต้องมีสภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์และหยุดให้นมลูกเรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะเริ่มวางแผนดูดไขมันต่อได้ ยิ่งถ้าเป็นการผ่าคลอดที่ร่างกายมีการบอบช้ำมาบ้าง ก็ยิ่งต้องรอเวลาให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ตรงนี้คุณแม่สามารถเข้าไปปรึกษาทีมแพทย์ในคลินิกที่สนใจก่อนได้ตั้งแต่หลังคลอด เพื่อให้รู้ว่าช่วงไหนที่รับการรักษาได้ ระหว่างนั้นจะต้องความพร้อมและบำรุงร่างกายอย่างไร เพื่อให้การฟื้นตัวหลังการดูดไขมันไม่ยืดเยื้อจนเกินไป ข้อดีของการเข้ามาปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็คือ บางครั้งอาจจะไม่ต้องถึงขั้นดูดไขมันหน้าท้องก็ได้ แต่ใช้การบริหารร่างกายเบาๆ หรือทำทรีทเม้นต์บริเวณหน้าท้องแทน

ถ้าคุณแม่เป็นคนหนึ่งที่ต้องการมีรูปร่างที่สวยงาม การดูดไขมันหลังคลอดก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่ต้องทำในช่วงที่ร่างกายแข็งแรงและหยุดให้นมแล้วเท่านั้น คุณแม่อย่าเพิ่งรีบใจร้อน เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีนะคะ หากคุณแม่ท่านใดสนใจวิธีดูดไขมันหน้าท้อง อิสสวีร์คลินิก ยินดีให้บริการและให้คำปรึกษาทุกเคสก่อนตัดสินใจทำค่ะ ด้วยวิธีมาตรฐานที่มีความปลอดภัย เห็นผลชัดเจน ที่จะช่วยให้คุณมีรูปที่สวยงามได้อย่างต้องการ สามารถดูรีวิวดูไขมันเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจทำได้เลยนะคะ