เป็นโรคเข่าเสื่อม แต่ไม่อยากผ่าตัด รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง
โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นได้กับคนที่มีอายุเยอะๆ แต่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาวก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน หากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ระมัดระวังการใช้งานข้อเข่า โดยสิ่งที่น่ากลัวของโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น ไม่เพียงแค่อาการของโรคเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการรักษาโรคดังกล่าวเมื่อเกิดอาการอย่างรุนแรงหรืออยู่ในระยะเรื้อรังที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าหากไม่ใช่การผ่าตัดจะมีวิธีไหนที่จะสามารถรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมได้อีก
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
การรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมนั้นไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัดอย่างเดียว แต่ยังมีวิธีต่างๆ ที่สามารถรักษาอาการเข่าเสื่อมได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในแต่ละวิธีก็ต้องพิจารณาจากอาการ ความรุนแรงและความเหมาะสมของคนไข้ประกอบด้วย โดยส่วนใหญ่แล้ววิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดนั้นมักจะถูกเลือกใช้เป็นวิธีสุดท้ายกับผู้ป่วยที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมรุนแรงหรือเรื้อรัง แต่หากมีอาการไม่รุนแรงหรือแค่เจ็บปวดเล็กน้อยแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการใช้ยา
หนึ่งในวิธีการรักษา บรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมด้วยวิธีการใช้ยา โดยตัวยาที่ใช้ก็จะมีมากมายหลายประเภทตั้งแต่ยาแก้ปวดรับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวด ยาคล้ายกล้ามเนื้อ ยาทาแก้ปวดเฉพาะที่ หรือ ยาต้านอาการอักเสบที่มีทั้งรูปแบบฉีดและรูปแบบรับประทาน เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการใช้ยาเป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากจนเกินไป แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คืออาการข้อเข่าเสื่อมที่อาจจะไม่ได้รักษาได้หายแบบ 100% เต็ม หรือยาบางประเภทก็แค่บรรเทาอาการปวดเบื้อต้น
2. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมที่มีประสิทธิภาพและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยการรักษาทางกายภาพบำบัดอาจจะเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์อาการข้อเข่าเสื่อมด้วยการทำอัลตราซาวน์ เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด จากนั้นจึงเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์รักษา การฉีดน้ำข้อเข่าเทียม การทำกายภาพ การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า หรือการทำช็อคเวฟ เป็นต้น
3. การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาข้อเข่าเสื่อม อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ยั่งยืนส่งผลที่ดีในระยะยาวให้กับคนไข้ได้อีกด้วย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้คนมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อมากขึ้น นอกจากนี้คนไข้ยังจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อให้สอดคล้องกับการรักษาด้วยการออกกำลังกายอีกด้วย จึงบอกได้ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและยั่งยืน
จะเห็นได้ว่าหากมีอาการข้อเข่าเสื่อม หรือมีความเสี่ยงคล้ายจะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การรักษาก็ไม่เพียงแต่แค่วิธีการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยเราลดความเสี่ยง และลดค่าใช้จ่ายลงไปได้ อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยเรื่องการรักษาข้อเข่าเสื่อมควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง
รักษาข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องผ่าตัด https://www.rehabcareclinic.com/blog/เข่าเสื่อม-ไม่อยากผ่า-ต้องอ่าน
วิธีป้องกันและรักษา เพื่อบอกลาออฟฟิศซินโดรม
เชื่อว่าหนึ่งในอาการที่ใครหลายคนในวัยทำงานมักจะพบเจอกันเลยก็คือ อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวในบริเวณต่างๆ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นหนึ่งในกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมที่นิยมเป็นกันในปัจจุบันนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะพามาดูกับวิธีการป้องกันและรักษาเพื่อบอกลากับกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมเหล่านี้กัน
ออฟฟิศซินโดรม
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการป้องกัน และรักษา เรามาทำความรู้จักกับออฟฟิศซินโดรมกันเบื้องต้นก่อนดีกว่า ออฟฟิศซินโดรม เป็นกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ และเยื่อพังผืด มักเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมในอิริยาบทเดิมๆ ซ้ำๆ ต่อเนื่องกันหลายชั่วโมงเป็นเวลานาน เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ โดยไม่ลุก หรือเปลี่ยนท่าทางอิริยาบท, การขับรถระยะทางไกลติดต่อกันหลายชั่วโมง, หรือ การก้มเล่นโทรศัพท์ด้วยท่าทางเดิมเป็นเวลานาน เป็นต้น
วิธีการป้องกันออฟฟิศซินโดรม
ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าออฟฟิศซินโดรมนั้นเกิดจากการที่ใช้งานกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมนั่นก็คือ การหมั่นขยับ ปรับเปลี่ยนท่าทางอิริยาบทอยู่เสมอ หากต้องนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ควรให้ร่างกายและกล้ามเนื้อได้พักจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงาน การขับรถ หรือแม้กระทั่งการนั่ง หรือการยืน
วิธีการรักษาออฟฟิศซินโดรม
สำหรับคนที่เข้าข่ายว่าตัวเองจะเป็นออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาดูแลตัวเองได้ด้วยการหมั่นออกกำลังกาย ทำกายบริหารอยู่เป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ แต่หากมีอาการออฟฟิศซินโดรมที่รุนแรงและเรื้อรัง อาจจะต้องมีการไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อตรวจทำการรักษาอีกครั้งหนึ่ง
หนึ่งในวิธีการรักษาออฟฟิศซินโดรมที่เราอยากแนะนำก็คือ การทำกายภาพบำบัด เนื่องจากว่าเป็นการรักษาที่ช่วยลดความเสี่ยงในอาจเกิดขึ้นกับตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากการผ่าตัด หรือความเสี่ยงด้านอวัยวะภายในจากการทานยา เป็นต้น แถมหากเราดูแลตัวเองอย่างดีหลังการรักษา ผลการรักษาก็ยังมีประสิทธิภาพที่ยาวนานอีกด้วย
ซึ่งการรักษาออฟฟิศซินโดรมจะมีประสิทธิภาพที่สุดก็ต่อเมื่อมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และทีมนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์คอยดูแลเรื่องการทำกายภาพบำบัดให้กับเรา
สนใจปรึกษา และดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการทำกายภาพบำบัด ได้ที่ https://www.rehabcareclinic.com/
[Top]