รู้ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิต
การทำประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารทางการเงิน ช่วยให้ความคุ้มครองหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันโดยที่ไม่ทันตั้งตัว การตัดสินใจทำประกันชีวิตเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เนื่องจากมันมีผลต่อคุณและครอบครัวของคุณในอนาคต ดังนั้นควรพิจารณาข้อสังเกตต่างๆ ต่อไปนี้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำประกันชีวิต
1.วัตถุประสงค์ในการทำประกันชีวิต:
-คุณต้องการประกันชีวิตเพื่อให้ครอบครัวของคุณมีความคุ้มครองในกรณีที่คุณเสียชีวิตหรือไม่?
-คุณต้องการประกันชีวิตเพื่อการลงทุนหรือออมเงินในอนาคต?
-คุณต้องการประกันชีวิตเพื่อใช้เป็นวางแผนการสืบทอดทรัพย์สินหรือไม่?
2.จำนวนเงินที่คุณต้องการประกัน:
คิดว่าจะต้องใช้เงินเท่าไรในกรณีที่คุณเสียชีวิต? พิจารณาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น หนี้สิน, ค่าดูแลบุตร, ค่าศพ และค่าใช้จ่ายที่ต้องการในอนาคต.
3.ระยะเวลาที่คุณต้องการประกัน:
คุณต้องการประกันชีวิตเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ หรือเป็นระยะยาว ๆ และในช่วงเวลานั้นคุณต้องการความคุ้มครองและการลงทุนอย่างไร?
4.สุขภาพของคุณ:
สุขภาพปัจจุบันของคุณจะมีผลต่อราคาและเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันชีวิต คุณอาจต้องผ่านการตรวจสุขภาพหรือตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของคุณก่อนที่จะได้รับประกันชีวิต.
5.ราคาประกันชีวิต:
เปรียบเทียบราคาของกรมธรรม์ประกันชีวิตจากบริษัทประกันต่าง ๆ เพื่อหาความคุ้มครองที่เหมาะสมและราคาที่คุณสามารถรับได้.
6.บริษัทประกัน:
ปัจจุบันมีบริษัทประกันมากมายคุณควรสำรวจและประเมินบริษัทประกันเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีความเชื่อถือได้และมีประวัติดีในการจ่ายสินไหม.
7.เงื่อนไขของกรมธรรม์:
อ่านเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันชีวิตอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขที่กำหนดไว้.
8.การปรับแต่ง:
บางบริษัทประกันชีวิตอาจมีตัวเลือกในการปรับแต่งกรมธรรม์ เช่น การเพิ่มความคุ้มครองหรือการลดค่าเบี้ย.
9.ประสบการณ์และคำแนะนำ:
สอบถามคำแนะนำจากคนที่มีประสบการณ์ในการทำประกันชีวิต และอ่านรีวิวเกี่ยวกับบริษัทประกันชีวิตที่คุณสนใจ.
10.การประเมินตนเอง:
พิจารณาความเสี่ยงทางการเงินของคุณและวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ.
การวางแผนทำประกันชีวิตเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการวางแผนทางการเงิน เพราะฉะนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำประกันทุกประเภท หากคุณใจสนใจอยากทำประกันชีวิตสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kwilife.com/
สิ่งต้องรู้ก่อนซื้อประกันชีวิตฉบับแรก
การเลือกประกันชีวิตเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นการปกป้องสิทธิและความเสี่ยงในอนาคตของคุณและครอบครัวของคุณ ประกันชีวิตเป็นการสร้างหลักประกันเพื่ออนาคตให้กับตัวเอง หากคุณอยากเริ่มต้นมีประกันชีวิตฉบับแรกเคยตั้งคำถามในการซื้อมั้ยว่า หากต้องการซื้อหรือทำประกันชีวิตมีเรื่องอะไรที่ต้องรู้ โดยมีขั้นตอนในการเลือกประกันชีวิตฉบับแรกดังนี้
• กำหนดวัตถุประสงค์ คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการเลือกประกันชีวิต ว่าคุณต้องการป้องกันค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดเหตุร้ายแรง เช่น การเสียชีวิต หรือคุณต้องการประกันชีวิตเพื่อเพิ่มทรัพย์สินให้กับครอบครัวของคุณในอนาคต และแนะนำให้เลือกประกันประเภทสะสมทรัพย์เพื่อให้ความคุ้มครองชีวิตและมีเงินออมในอนาคตอีกด้วย
• วิเคราะห์ความต้องการ ทำการวิเคราะห์ระดับความต้องการประกันชีวิตของคุณ โดยพิจารณาเกี่ยวกับรายได้ปัจจุบันของคุณ ค่าใช้จ่ายที่ต้องการป้องกัน ความต้องการในการสนับสนุนครอบครัวในอนาคต เป็นต้น
• ค้นหาและเปรียบเทียบแผนประกันชีวิต ค้นหาแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ศึกษาแผนประกันชีวิตที่มีอยู่ในตลาด บริษัทประกัน เปรียบเทียบความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน และข้อจำกัดต่างๆ ของแต่ละแผน
• ความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน พิจารณาความสามารถในการชำระเบี้ยประกันชีวิต ในระยะยาว แนะนำให้ตัดสินใจเลือกแบบประกันที่มั่นใจว่ามีความสามารถในการจ่ายเบี้ยครบได้ตามที่กำหนดไว้ หากจ่ายเบี้ยไม่ครบตามสัญญา ผิดนัดชำระเบี้ยงวดใดงวดหนึ่ง จะส่งผลเสียต่อเจ้าของกรมธรรม์ เรียกว่า ผิดสัญญา ส่งผลให้ไม่ได้รับเงินคืนตามที่กำหนดในกรมธรรม์ประกันชีวิต
การทำประกันชีวิตก็เหมือนเป็นการลงทุนและออมเงินในระยะยาว รวมถึงเป็นอีกก้าวในการวางแผนอนาคต ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิต ประกันชีวิตมีหลายแบบเพราะฉะนั้นเราจะเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรานั่นเอง เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้หลายคนได้เห็นถึงสาระสำคัญของกรมธรรม์ประกันชีวิตกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องรู้และตรวจสอบก่อนทำประกันชีวิต และหากใครที่กำลังมองหาแผนประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองที่ครบถ้วนและรอบด้าน สามารถดูรายละเอียดแผนประกันของเราได้ที่ https://www.kwilife.com/
[Top]4 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันชีวิต
ทำประกันชีวิตใครว่าทำได้เลย มาดู 4 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันชีวิต ว่ายังมีเรื่องที่คุณไม่รู้ หรือถ้ารู้แล้วจะมีผลต่อการตัดสินใจทำประกันชีวิตอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง พร้อมได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม มาดูกันเลยค่ะ
1.ประกันชีวิตไม่ใช่การฝากเงิน ถึงประกันชีวิตจะมีลักษณะคล้ายเงินฝาก แต่ต่างกันที่การฝากเงินนั้น สามารถเบิกถอนเงินได้ตลอดเวลา แต่ประกันชีวิตไม่ใช่แบบนั้น เพราะการถอนเงินจากกรมธรรม์ ไม่สามารถทำได้เหมือนเงินฝาก ต้องรอมีเงินคืน หรือครบสัญญา และถ้าหากจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ ก็ต้องทำการเวนคืนกรมธรรม์ ซึ่งอาจจะทำให้มูลค่าเงินสดที่เหลืออยู่ในกรมธรรม์ น้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไปค่ะ
2.อยากทำประกันชีวิต เพราะอยากลดหย่อนภาษีอย่างเดียวไม่ได้ หน้าที่ของประกันชีวิตคือการคุ้มครองความเสี่ยงเป็นหลัก เพราะหากอยากซื้อประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี ให้ได้ลดหย่อนเยอะๆ บางทีแล้วอาจจะเป็นการลดหย่อนภาษีที่เกินความจำเป็น ควรมองถึงภาพรวมของการวางแผนการเงินเพื่อชีวิตด้วยค่ะ
3.ประกันสั้นๆ ไม่ได้ดีกว่าประกันยาวๆ บางคนเลือกซื้อประกันชีวิต เน้นเงินออม และตั้งใจจะจ่ายเบี้ยสั้นๆ เพราะคิดว่าไม่อยากจ่ายยาวเป็นภาระ แต่ความจริงก็คือ ควรจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเงิน และความจำเป็นในชีวิต เช่น เป้าหมายการออมของเราคืออะไร เพื่อให้เรามั่นใจว่าการทำประกันชีวิตจะตอบโจทย์ทุกความต้องการของเราค่ะ
4.แบบที่มีเงินคืน ไม่ได้ดีกว่าแบบที่ไม่มีเงินคืน ที่จริงแล้วประกันแบบที่มีเงินคืนนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแบบสะสมทรัพย์ ทำเพื่อการันตีเงินออม ส่วนแบบที่ไม่มีเงินคืนคือเป็นแบบเน้นคุ้มครองชีวิต ถึงไม่มีเงินคืน แต่ถ้าเทียบกับเบี้ยที่จ่ายในจำนวนที่เท่ากัน แบบที่เน้นคุ้มครองชีวิตที่ไม่มีเงินคืน จะได้วงเงินคุ้มครองชีวิตสูงกว่าเยอะมาก ยิ่งเป็นแบบจ่ายเบี้ยทิ้ง วงเงินคุ้มครองยิ่งสูงมากๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 4 ข้อควรรู้ที่เรานำมาฝากผู้อ่านทุกท่าน หวังว่าคงจะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจในการเลือกทำประกันชีวิตนะคะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต ที่มอบผลตอบแทนสูงสุดให้กับคุณตามสัญญาที่กำหนด บริการอย่างห่วงใย ใส่ใจในทุกกรมธรรม์ค่ะ
[Top]รู้ไหมว่าประกันชีวิต มีดีมากกว่าการคุ้มครองชีวิต
หากกล่าวถึงประกันชีวิตหลายคนก็คงเข้าใจว่าประกันชีวิต ก็คือการคุ้มครองชีวิตกรณีเสียชีวิต แต่รู้กันไหมว่า จริงแล้วประกันชีวิตนั้นให้เราได้มากกว่าการคุ้มครองชีวิตอีก อยากรู้ไหมว่าประกันชีวิตให้อะไรเราได้บ้าง ไปดูกันเลย
1.ประกันชีวิตให้ประโยชน์ด้านทางการเงิน
การทำประกันชีวิต เปรียบได้กับการลงทุนในรูปแบบหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ได้ผลที่คุ้มค่า โดยที่เราไม่ต้องใช้เงินก้อนใดๆเพื่อไปลงทุนเลย นอกจากนี้การชำระเบี้ยประกันชีวิตยังสามารถแบ่งจ่ายได้หลายแบบ ซึ่งผลประโยชน์ที่คงที่และสม่ำเสมอตลอด ไม่มีการปรับลด เราจะได้ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
2.ประกันชีวิตให้ประโยชน์ด้านการออมเงิน
นอกจากความคุ้มครองชีวิตแล้วประกันชีวิต ยังให้ประโยชน์ทางด้านการออมเงินอีกด้วย ประกันชีวิตสามารถสร้างวินัยทางการเงินได้เป็นอย่างดี เพราะว่าการทำประกันชีวิตนั้น ผู้เอาประกันจะต้องชำระทางเบี้ยประกันภัยอย่างสม่ำเสมอ ถึงจะได้ผลประโยชน์จากการทำประกันชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนทางการเงินในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งหากกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินระหว่างที่กรมธรรม์ยังไม่ครบสัญญา ก็สามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตของคุณเองได้
3.ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบทั่วไป 25,000 บาท และเบี้ยประกันของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท เรียกได้ว่าได้ผลประโยชน์แบบ 2เด้งกันเลยทีเดียว
4.ประกันชีวิตสร้างความมั่นคงให้ชีวิต
การประกันชีวิตสามารถช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้ ในกรณีการทำประกันคุ้มครองการเจ็บป่วย หรือการประกันอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยจะได้เงินทดแทนเพื่อใช้ในการเลี้ยงชีพในกรณีทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงได้อีกด้วย
ทั้ง 4 ข้อนี้นับได้ว่าเป็นข้อดีของประกันชีวิต ที่นอกเหนือจากการคุ้มครองชีวิตที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าคุ้มครองชีวิต มีเงินก้อนให้ครอบครัวได้ใช้ในเวลาไม่อยู่แล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมุมดีของประกันชีวิต ที่บอกได้เป็นอย่างได้ว่าทุกคนควรทำประกันชีวิต หากคุณกำลังวางแผนทำประกันชีวิตดีๆ สักฉบับ เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต เปลี่ยนประกันชีวิตให้ง่ายสำหรับคุณ มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่องด้วยกรมธรรม์ประกันชีวิตที่หลากหลาย รับความคุ้มครองได้แบบออนไลน์ 24 ชม. สะดวก สบาย ทุกที่ทุกเวลา
[Top]เมื่อได้กรมธรรม์ประกันชีวิตแล้ว อย่าลืม 3 สิ่งที่ควรเช็คและต้องรู้
ในการทำประกันชีวิตหลังจากที่มีการจ่ายค่าเบี้ยประกันและทำสัญญาประกันภัยแล้ว ทางบริษัทจะมีหนังสือฉบับหนึ่งให้ผู้ทำประกันเก็บไว้ นั่นก็คือ กรมธรรม์ ซึ่งกรมธรรม์ คือ เอกสารที่ทางบริษัทประกันออกให้กับผู้เอาประกัน เพื่อให้ทราบรายละเอียดของประกันที่ทำ เงื่อนไขและข้อยกเว้น ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องยืนยันความคุ้มครองจากบริษัทประกัน เมื่อเราได้รับกรมธรรม์แล้วอย่าลืม 3 เช็คต่อไปนี้
1.เช็คส่วนสรุปกรมธรรม์
ส่วนสรุปกรมธรรม์จะอยู่ช่วงหน้าแรกของเล่มกรมธรรม์ โดยต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ชื่อแผนประกันชีวิต,ประเภทของประกันและบริษัทผู้รับทำประกัน วันที่เริ่มทำสัญญา,วันสิ้นสุดสัญญาและอายุของผู้เอาประกันตอนเริ่มทำสัญญา ระยะเวลาความคุ้มครองตามสัญญา,ค่าเบี้ยและระยะเวลาจ่ายเบี้ยอาจเป็นรายเดือน/ปี จำนวนเงินเอาประกัน สัญญาเพิ่มเติม เช่น ความคุ้มครองเพิ่มเติมในเรื่องสุขภาพ
2.เช็คผลประโยชน์
เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลยกับ รายละเอียดของผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งกรณีที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือ เสียชีวิต รวมไปถึง เงินคืนเมื่อสิ้นปีกรมธรรม์ อยู่ครบสัญญาได้เพิ่มอีกเท่าไหร่ เสียชีวิตได้เท่าไหร่ ในกรมธรรม์จะต้องระบุข้อมูลพวกนี้ให้ครบ พร้อมทั้งเปรียบเทียบเป็นอัตราส่วนในรูปแบบร้อยละ
3.เช็คข้อมูลตารางมูลค่าเงินสด
ส่วนนี้เป็นส่วนสุดท้ายของเล่มกรมธรรม์ ซึ่งจะแสดงตารางที่ข้อมูลสิทธิ์ขยายความคุ้มครอง,สิทธิ์เวนคืนมูลค่าเงินสด และสิทธิ์แปลงเป็นกรมธรรม์เงินสำเร็จ โดยทั้งหมดจะเป็นตารางตัวเลขสำหรับจำนวนเงินเอาประกันทุก 1 พันบาท ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการหยุดจ่ายเบี้ย ตารางข้อมูลนี้ จะช่วยให้สามารถคำนวณได้รวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า เพียงแค่กรมธรรม์เล่มเดียว แต่มีถึง 3 ส่วนที่เราต้องเช็ค เพราะทั้ง 3 ส่วนนี้คือสิทธิ์และผลประโยชน์ของตัวเราที่จะได้จากการทำประกันชีวิต ซึ่งถ้าหากเราไม่ตรวจเช็คให้ดี บางครั้งอาจจะทำให้เราเสียสิทธิ์หรือผลประโยชน์ในตัวประกันได้ เนื่องจากข้อมูลไม่ถูกต้องหรือการทำผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ ซึ่งในบางครั้งนายหน้าหรือกรมธรรม์ก็ไม่ได้แจ้งเราทั้งหมด หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันชีวิตสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KWI Life ที่ทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
[Top]