ครอบฟันอยู่ได้นานแค่ไหน ดูแลอย่างไรให้อยู่ไปได้นานๆ
ความยาวของการครอบฟันอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุครอบฟัน และวิธีการดูแลรักษา นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการดูแลและความยาวของการครอบฟันสำหรับวัสดุครอบฟันที่พบบ่อย มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
วัสดุในการครอบฟันมีอะไรบ้าง
เซรามิค: ครอบฟันเซรามิคสามารถใช้ได้นานถึง 10-15 ปีหรือมากกว่า โดยอาจต้องทำการบำรุงรักษาเช่น การทำความสะอาดฟันประจำทุก 6 เดือน
โลหะ (เช่น โลหะทองแดง): ครอบฟันโลหะสามารถใช้ได้นาน 10 ปีหรือมากกว่า แต่อาจต้องระวังการสกัดหรือการสึกหรอเพื่อป้องกันการกัดสึก
โปรซีเลน: วัสดุครอบฟันที่มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถใช้ได้นานกว่า 20 ปี และมักจะไม่ลอกหลุด แต่ควรระวังการตรึงอุบัติเหตุที่อาจทำให้เสียหาย
โพรซีเลนเซรามิค (Composite Resin): วัสดุนี้มักใช้สำหรับฟันหน้าเท่านั้นและมีความทนทานน้อยกว่าเซรามิค การครอบฟันด้วยโพรซีเลนเซรามิคอาจต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 5-7 ปี
เพื่อให้ครอบฟันอยู่ได้นานๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่าง
รักษาความสะอาด: การทำความสะอาดฟันประจำทุกวันด้วยสีฟันและไหมขัดฟัน เพื่อป้องกันการสร้างเศษอาหารและเชื้อโรคที่สามารถทำให้เกิดฟันผุได้
เข้ารับการตรวจเช็ก: ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและครอบฟันอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง การตรวจสุขภาพฟันสามารถช่วยตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดอันตราย
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อฟัน: เช่น การกัดเล็กน้อยหรือใช้ที่เหล็กที่มีแร่ธาตุเสียหายต่อฟัน
หมั่นบำรุงความสวยงาม: การรักษาความสวยงามของฟันด้วยการเข้ารับการทำความสะอาดฟันและการทำฟันขาวเป็นต้น
การดูแลรักษาอย่างนี้จะช่วยให้ครอบฟันอยู่ได้นานๆ โดยไม่มีปัญหาในการใช้งานและสุขภาพของฟันและสุขภาพเหงือกในช่องปาก หากผู้อ่านท่านใดที่มีความสนใจอยากเข้ารับการครอบฟันเพื่อเสริมความมั่นใจในรอยยิ้มและสุขภาพฟันที่แข็งแรง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงาม PMDC ที่พร้อมดูแลสุขภาพช่องปากของคุณอย่างครบวงจร ติดตามผลหลังการรักษาอย่างใส่ใจ เพราะเราอยากให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามในทุกๆวันค่ะ
ครอบฟัน VS อุดฟัน วิธีไหนที่เหมาะกับสภาพฟันของคุณ
เมื่อฟันมีปัญหาแตกหัก ฟันผุ สามารถเลือกบูรณะได้ด้วยการครอบฟันหรืออุดฟัน แต่ทันตกรรมทั้งสองแบบมีข้อดีและเหมาะสมกับปัญหาทันตกรรมที่ต่างกัน เพื่อฟื้นฟูการทำงานของฟันให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าการครอบฟันกับอุดฟันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จักกับการอุดฟัน
การอุดฟันเป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้ในการรักษาฟันผุ ฟันผุเล็กน้อย และฟันแตกหักขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะประกอบด้วยวัสดุ เช่น อะมัลกัม เรซินคอมโพสิต หรือพอร์ซเลน การอุดฟันได้รับการออกแบบมาเพื่ออุดส่วนที่เสียหายหรือผุของฟัน เป็นทางเลือกแบบรักษาโครงสร้างฟันเดิมไว้
ข้อดีของการอุดฟัน
1. การอุดฟันจะรักษาโครงสร้างของฟันเดิมไว้มากกว่ากว่าเมื่อเทียบกับครอบฟัน
2. กระบวนการอุดฟันจะใช้เวลารวดเร็ว
3. โดยทั่วไปการอุดฟันจะประหยัดกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับครอบฟัน
ทำความรู้จักกับการครอบฟัน
ในทางกลับกัน ครอบฟันเป็นการบูรณะที่ครอบคลุมมากกว่า โดยครอบฟันส่วนที่มองเห็นได้ทั้งหมด สามารถครอบฟันได้ทั้งฟันหน้าและฟันหลัง มักใช้เพื่อรักษาฟันที่มีความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงฟันผุขนาดใหญ่ ฟันหักรุนแรง หรือการครอบฟันหลังการรักษารากฟัน ครอบฟันมักทำจากวัสดุอย่างพอร์ซเลน เซรามิค โลหะผสม หรือวัสดุเหล่านี้ผสมกัน
ข้อดีของครอบฟัน
1. การครอบฟันช่วยเพิ่มการรองรับฟันที่อ่อนแอหรือเสียหาย ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของฟันได้
2. ครอบฟันสามารถแก้ไขลักษณะฟัน แก้ปัญหาทั้งด้านโครงสร้างและด้านความสวยงามของฟันให้ฟันขาวขึ้น เรียงตัวกันสวยขึ้นกว่าเดิมได้
3. ครอบฟันมีชื่อเสียงในด้านความทนทาน จึงสามารถแก้ปัญหาที่มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อคุณรักษาสุขภาพฟันอย่างดี จะยิ่งสามารถยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม
การเลือกระหว่างครอบฟันและการอุดฟันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฟัน ตำแหน่งของฟันที่ได้รับผลกระทบ และการพิจารณาสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล ก่อนทำการรักษาทันตแพทย์ของคุณจะทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม ให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและความงามของรอยยิ้มของคุณ
[Top]รู้กันไหมว่าครอบฟันคืออะไร และมีกี่แบบ
ครอบฟัน (Dental Crowns) คือการใช้วัสดุที่ดูเหมือนซี่ฟัน สวมครอบฟันที่เกิดการเสียหายค่อนข้างมากลงไปทั้งซี่คล้ายกับการสวมหมวกทับฟันลงไป เพื่อเสริมความแข็งแรง และช่วยให้ฟันกลับมามีสภาพดูเป็นปกติ โดยก่อนที่จะทำการครอบฟันทุกครั้ง ทันตแพทย์จะมีการเช็ครากฟันและโพรงประสาทฟันสมบูรณ์ว่ามีความสมบูรณ์ดี ไม่มีการอักเสบ เพราะหากรากฟันไม่สมบูรณ์อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ฟันโยก ไม่แข็งแรง ครอบฟันหลุดได้ ครอบฟันหน้ามี 5 แบบด้วยกันดังนี้
1.ครอบฟันโลหะล้วน (Full Metal Crown: FMC) การครอบฟันในแบบนี้จะมีความแข็งแรงมากที่สุด เหมาะสำหรับการครอบฟันกราม เพราะเกิดการแตก หัก บิ่น ได้ยาก แต่ก็มีข้อเสียคือ สีไม่เหมือนฟันจริงและในการทำต้องกรอเนื้อฟันออกเป็นจำนวนมาก
2.ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-ceramic crown: ACC) การครอบฟันในแบบนี้ มีความสวยงามและใกล้เคียง ธรรมชาติมากที่สุด มีความสวยงามเลียนแบบลักษณะฟันได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อเสีย ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน โดยการครอบฟันแบบนี้มีโอกาสที่แตก หัก บิ่นได้ง่ายกว่าแบบโลหะล้วน ซึ่งการครอบฟันแบบเซรามิกล้วน แบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท คือ 1. ครอบฟันเซรามิกล้วนแบบแก้วเซรามิก (All-resin crown) การครอบฟันเซรามิกประเภทนี้ เป็นการครอบฟันที่สวยงาม เหมือนฟันธรรมชาติที่สุด ความแข็งแรงระดับปานกลาง เหมาะกับฟันหน้าและฟันกรามน้อย 2.ครอบฟันเซรามิกล้วนแบบแก้วเซรามิก (All-resin crown) เป็นครอบฟันที่สวยงาม เหมือนฟันธรรมชาติที่สุด ความแข็งแรงระดับปานกลาง เหมาะกับฟันหน้าและฟันกรามน้อย
3.ครอบฟันโลหะเคลือบเซรามิก (Porcelain-fused-to-metal crown: PFM) การเคลือบฟันในแบบนี้มีความแข็งแรงปานกลาง ข้อเสียคือ แม้จะมีโครงเป็นโลหะแต่เซรามิกที่เคลือบก็ยังคงแตก หัก บิ่นได้ง่าย
4.ครอบฟันเรซินล้วน (All-resin crown) ทำจากวัสดุเรซินล้วนที่คล้ายกับพลาสติก มีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับครอบฟันชนิดอื่น มีความแข็งแรงปานกลาง แต่มีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าครอบฟันชนิดอื่น จึงมักใช้เป็นครอบฟันชั่วคราวระหว่างการรักษา
5.ครอบฟันเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel Crown: SSC) ครอบฟันแบบสีไม่สวยไม่เหมือนธรรมชาติ สังเกตเห็นได้ง่ายว่าสวมครอบฟันอยู่ แต่ข้อดีคือไม่ต้องไปพบทันตแพทย์หลายครั้ง จึงเหมาะสำหรับสวมฟันน้ำนมเด็ก
โดยสรุปแล้วการครอบฟันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่มีปัญหาฟันผุ ที่เกินกว่าการรักษาด้วยการอุดฟัน มีข้อดีก็คือช่วยเสริมฟันให้แข็งแรง ให้กลับมาใช้งานได้ปกติ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการครอบฟันจะช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้น แต่ก็มีโอกาสทำให้ฟันเสียหายได้เช่นกัน สำหรับท่านใดที่สนใจการทำครอบฟัน และต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ศูนย์ทันตกรรม PMDC เพื่อประกอบการตัดสินใจทำได้เลยนะคะ
[Top]วีเนียร์กับครอบฟันต่างกันยังไง ?
แตกต่างกันตรงที่ ครอบฟันจะครอบคลุมพื้นผิวด้านนอกทั้งหมดของฟันซี่นั้น ครอบฟันจะสวมไปลงบนฟันทั้งซี่ แต่วีเนียร์จะเป็นการเคลือบแค่ผิวหน้าของฟัน เท่านั้นเอง
การทำฟันทั้งสองแบบนี้ต่างมีข้อดีต่างกันออกไป
วีเนียร์นั้น มักใช้เพื่อปรับปรุงความสวยงามและแก้ไขฟันที่มีปัญหาเล็กน้อย เช่น ปัญหาเรื่องสีฟัน ฟันห่าง ฟันแตก โดยวิธีการการเคลือบผิวฟัน ด้วยวัสดุเซรามิกสีเหมือนฟัน
ข้อดีของการวีเนียร์ฟัน
- การทำวีเนียรืฟันจะใส่ให้ฟันขาวขึ้น โดยเสียเนื้อฟันไม่มาก การเลือกทำวีเนียร์จะเสียเนื้อฟันน้อยมากหรือไม่เสียเนื้อฟันเลย เพราะเป็นการตกแต่งแค่ผิวหน้าบางส่วนเท่านั้นเอง ไม่ต้องกรอฟันเหมือนการครอบฟัน
- มีความทนทานอยากต่อการติดคราบสีที่เกิดจากเครื่องดื่ม อาหาร บุหรี่
- สามารถปกปิดสีฟันที่ผิดปกติหรือไม่สวยได้
ข้อเสียของการวีเนียร์ฟัน
- นานๆ ไป พอเราอายุมากขึ้น เหงือกเราก็จะร่นลง นั่นหมายความว่าขอบแผ่นพอร์เซเลนฯที่เคยซ่อนอยู่ในเหงือก
- การทำวีเนียร์ที่อาจจะเกิดขึ้น คือ อาการเสียวฟัน เพราะการกรอฟันเป็นการรบกวนเนื้อเยื่อประสาทในโพรงฟัน
- ต้องระวังการรับประทาน ใช้ไหมขัดฟันสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดการผุตามขอบที่มองไม่เห็นได้
ครอบฟัน
ครอบฟัน วิธีนี้จะเหมาะในกรณีที่ผู้ไข้สูญเสียเนื้อฟันมาก เช่น ฟันแตกจากฟันผุ ฟันตายหรือต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของฟันค่อนข้างเยอะเพราะต้องกรอฟันทั้งซี่ให้เล็กลง และสวมวัสถุครอบฟันทับบนฟันแท้ของเรา ลักษณะคล้ายๆ การใส่ฟันปลอม
ข้อดีของการครอบฟัน
- การครอบฟันจะช่วยให้ฟันของคุณกลับมาแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหาร
- สามารถปรับการเรียงตัวของฟันได้
- ในกรณีที่ฟันมีความผิดปกติ โครงสร้างฟันอ่อนแอ ครอบฟันจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ฟันดังกล่าวได้
ข้อเสียของการครอบฟัน
- ครอบฟันแบบเซรามิกต้องกรอเนื้อฟันออกในปริมาณที่มากกว่า
- มีราคาสูงเมื่อเทียบกับการอุดฟันและฟันที่อยู่ในครอบฟันอาจจะเกิดการผุได้ ดังนั้นผู้ที่ใส่ครอบฟัน จึงต้องรักษาฟันให้สะอาดและหมั่นมาตรวจฟันที่ครอบกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
- ใช้ระยะเวลาในการทำนาน ทำครอบฟัน จำเป็นต้องมา ทำอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์
ท่านใดที่สนใจเรื่องการทำวีเนียร์ฟันขาวหรือต้องการทำครอบฟัน หรืออาจจะยังไม่มั่นใจว่าต้องรักษาด้วยวิธไหน เราขอแนะนำ ศูนย์ทันตกรรม PMDC ที่นี่บริการให้คำปรึกษาปัญหาช่องปากฟรี เป็นศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงาม เปิดให้บริการมากว่า 25 ปี ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และรูปแบบการรักษาที่ทันสมัย ใส่ใจทุกรายละเอียดเล็กน้อยๆ หรือสนใจเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและดูภาพก่อนและหลังการรักษาได้ที่ https://goo.gl/utvi40
[Top]